fb
หน้าแรก /
ไลฟ์สไตล์ /
11 วิตามิน 11 เคล็ด(ไม่ลับ) กินวิตามินตอนไหน ให้ร่างกายดูดซึมดีที่สุด
11 วิตามิน 11 เคล็ด(ไม่ลับ) กินวิตามินตอนไหน ให้ร่างกายดูดซึมดีที่สุด
fav
fav

หลายคนที่กำลังหาวิตามินมาทานเพื่อดูแลสุขภาพคงจะสับสนและสงสัยอยู่ลึก ๆ ว่าควรกินวิตามินตอนไหน
ที่จะทำให้ร่างกายดูดซึมดีที่สุดและวิตามินอะไรที่ห้ามกินร่วมกัน วันนี้อีเว้นท์พาสจะมาบอก
11 เคล็ด(ไม่ลับ) การกินวิตามิน 11 ชนิด มาแนะนำทุกคนด้วย นอกจากจะกินเป็นเวลาแล้วควรกินเป็นประจำ
เพื่อจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากวิตามิน ส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วยนะ




1. วิตามินซี 

วิตามินซีช่วยในการเสริมสร้างและป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน

ช่วยในการสร้างความยืดหยุ่นใต้ผิวหนัง หรือที่เรียกว่า คอลลาเจน นอกจากนี้ยังจำเป็นในการทำงาน

ร่วมกันกับธาตุเหล็กอีกด้วย ซึ่งพบได้มากในส้ม ฝรั่ง และมะขามป้อม


เวลากิน

หลังอาหารมื้อเช้า เพราะอาหารจะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีไปใช้ได้

และเป็นการป้องกันกระเพาะอาหารระคายเคืองด้วยเพราะวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรด

ไม่ควรกินตอนท้องว่างและก่อนนอน




2. วิตามินบี

วิตามินบีมีความจำเป็นต่อร่างกายโดยจะทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ของปฏิกิริยาเผาผลาญสารอาหาร

เพื่อนำไปสร้างสารสำคัญต่าง ๆ แก่ร่างกายให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะระบบประสาทและสมอง

รวมไปถึงมีการทำงานอย่างสมบูรณ์ภายในร่างกายอย่างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย

แหล่งอาหารที่ให้วิตามินบี เช่น ธัญพืช ข้าวกล้อง เครื่องในสัตว์ และเนื้อหมู


เวลากิน

หลังอาหารมื้อเช้า เพราะร่างกายจะสามารถดูดซึมได้ดีที่สุด การกินวิตามินบีรวมให้ได้ผลดีที่สุด

ควรกินพร้อมกับวิตามินซี ในมื้ออาหารเช้า กลางวัน หรือเย็น ไม่ควรกินตอนท้องว่างและก่อนนอน




3. วิตามินอี

วิตามินอี ช่วยป้องกันผิวไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

โดยพบได้มากในเมล็ดทานตะวัน ถั่วเมล็ดแห้ง อโวคาโด และผักโขม


เวลากิน

หลังมื้ออาหารมื้อเช้า และมื้อเย็น ควรกินกับอาหารที่มีไขมัน เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้เต็มที่

ไม่ควรกินในปริมาณมาก จะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น ปวดหัว ตาพร่ามัว และอาเจียน




4. วิตามินดี

วิตามินดีมีหน้าที่หลักในการช่วยดูดซึมแคลเซียม ช่วยให้กระดูกแข็งแรงและป้องกันโรคกระดูกบาง

และกระดูกพรุน ช่วยลดฮอร์โมนพาราไทรอยด์ ป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก

เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน


เวลากิน

หลังอาหารเช้าร่วมกับอาหารที่มีไขมัน ร่างกายเราจะดูดซึมวิตามินดีได้เยอะและเร็วขึ้น

ไม่ควรกินตอนท้องว่าง มื้อเย็น และก่อนนอน




5. วิตามินเอ

วิตามินเอมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ช่วยให้มองเห็นได้ดีขึ้น เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

และส่งเสริมพัฒนาการของทารกในครรภ์ ซึ่งพบได้สูงในอาหารจำพวก มันเทศ ยอดฟักทอง

ยอดแค ตำลึง แครอท มะละกอ และผักผลไม้สีเหลืองส้มทั้งหลาย


เวลากิน

หลังหรือพร้อมอาหารมื้อเย็น ควรเน้นเป็นอาหารที่มีไขมันดีด้วย

ไม่ควรกินในปริมาณมาก จะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว ปวดเมื่อตามร่างกาย

และที่ร้ายแรงสุด อาจจะทำให้เสียชีวิตได้




6. แคลเซียม

แคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง โดยจะช่วยป้องกันปัญหากระดูกเปราะ พรุน

และการเป็นตะคริวได้เป็นอย่างดี ซึ่งพบได้มากใน ปลาตัวเล็กตัวน้อย งา

ผลิตภัณฑ์จากนม เช่นชีส เนย และโยเกิร์ต


เวลากิน

หลังมื้ออาหารเย็น เพราะช่วงเวลากลางคืนเป็นช่วงที่แคลเซียมไหลออกจากกระดูกมากที่สุด

ปริมาณแคลเซียมที่สูงขึ้นจะป้องกันการไหลออกจากกระดูก ป้องกันไม่ให้กระดูกบางได้

ไม่ควรกินคู่กับกาแฟ




7. น้ำมันปลา

น้ำมันปลามีไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 ที่มีความสำคัญ

ต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น EPA ช่วยลดระดับไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์

EPA ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางระบบหลอดเลือด หัวใจและสมอง

และ DHA เป็นส่วนประกอบในเซลล์สมอง ประสาท และจอประสาทตา


เวลากิน

ระหว่างมื้ออาหารหรือหลังอาหาร เพราะจะทำการดูดซึมได้ดีกว่า ไม่ควรกินตอนท้องว่าง




8. ธาตุเหล็ก

ธาตุเหล็ก จะช่วยสร้างฮีโมโกลบิน ที่เป็นส่วนสำคัญของเม็ดเลือดแดง

และป้องกันภาวะโลหิตจางได้ โดยพบได้มากใน ตับ ไข่แดง เลือด และเนื้อแดง


เวลากิน

ตอนท้องว่าง ธาตุเหล็กจะถูกดูดซึมได้ดีที่สุด จึงควรกินก่อนมื้ออาหาร

แต่ก็สามารถรับประทานพร้อม ๆ กับการรับประทานอาหารได้เช่นกัน

ไม่ควรกินคู่กับแคลเซียม วิตามินอี และสังกะสี




9. คอลลาเจน

คอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง

โดยมีสัดส่วนสูงถึง 80 % ทำหน้าที่คล้ายกับกาวและเป็นโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ

ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ


เวลากิน

ตอนท้องว่าง ช่วงที่ไม่ได้ทานอาหารมาก่อนหรือหลังดีที่สุด

เพราะระบบของร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนเข้าร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเวลานั้น




10. เกรปซีด

สกัดจากเมล็ดองุ่น เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ช่วยบำรุงผิวพรรณ

และป้องกันสารพัดโรค ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง อัลไซเมอร์

ภูมิแพ้หรือหอบหืด และลดการอักเสบต่าง ๆ


เวลากิน

ตอนท้องว่าง ก่อนอาหารเช้า หรือตอนเช้าหลังจากตื่นนอน

เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีที่สุด

ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องโรคเลือดไหลไม่หยุด

คนที่กำลังกินยาประเภทต้านการแข็งตัวของเลือด และคนที่กำลังเตรียมผ่าตัด




11. สังกะสี

ช่วยลดการสะสมตัวของคอเลสเตอรอล ช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วย

และบรรเทาอาการของโรคหวัด ช่วยคงสภาพการรับรู้รส กลิ่น และสายตา

ช่วยในการรักษาผู้ป่วยทางจิตหรือโรคจิตเภท


เวลากิน

หลังอาหาร หรือพร้อมกับอาหารก็ได้ หากกินในปริมาณมากจะส่งผลให้ระบบย่อยอาหารแปรปรวน

ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่ดี ไม่ควรกินร่วมกับแคลเซียมและธาตุเหล็ก




แชร์ :
LogoLogo
Logo
บริษัท อีเว้นท์ไทย จำกัด
47/313 อาคารไคตัค ชั้น 5 ถนนป๊อปปูล่า ต.บ้านใหม่
อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
ติดตามเรา :
fbigttx
เครื่องหมายรับรอง :
dbd
©2025 Eventthai Co.,Ltd. All rights reserved.
Version 1.3.1