คนมีรถหัวจะปวด ช่วงไหนเจอมรสุมพายุเข้าที น้ำท่วมที ลมแทบจับ ก็เพราะรถเราไม่ใช่เรือ น้ำท่วมทีนึงก็ต้องลุยน้ำแบบที่บางครั้งก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ก็ขับลุยน้ำไปเลยสิคะ แต่คนขับรถอย่าเพิ่งถอดใจเพราะเห็นข่าวรถยนต์พังไปหลายรายเพราะลุยน้ำ วันนี้มีความหวังแล้วหนึ่ง เพราะ อีเว้นท์พาส มีเคล็ดลับดี ๆ วิธีขับรถลุยน้ำ ลุยน้ำยังไงให้รถไม่พัง จริง ๆ แล้วไม่ยากเลย มีสติ แล้วทำตามนี้ ไม่มีพังชัวร์ 

วิธีขับรถลุยน้ำท่วม ขับลุยน้ำยังไงไม่ให้เครื่องพัง 
พร้อมวิธีดูแลหลังขับรถลุยน้ำ

1. ลดความเร็วในจุดน้ำท่วม

ก่อนที่จะถึงจุดน้ำท่วม เมื่อเราเห็นแล้วว่าข้างหน้ามีน้ำขัง ควรลดความเร็วลง เพราะหากขับรถโดยใช้ความเร็วผ่านบริเวณน้ำขังมาก ๆ รถอาจจะอาจเสียการทรงตัวได้ เป็นอันตรายมาก ๆ บางรายถึงขั้นคุมรถไม่อยู่ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ และหากยังลุยต่อมีโอกาสที่เครื่องจะดับได้ ... โดยแนะนำว่าไม่ควรใช้ความเร็วมากกว่า 60-80 กม./ชม. ซึ่งหลายคนถามว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ระดับน้ำขนาดไหนที่จะขับผ่านได้ สังเกตง่าย ๆ คือ ถ้าเป็นรถยนต์ประมาณไม่เกิน 30 ซม. หรือประมาณ 1 ฟุต สังเกตด้วยตาเปล่าเร็ว ๆ ก็ประมาณครึ่งล้อได้ 

2. ปิดแอร์ในรถ 

หากต้องขับรถลุยผ่านน้ำท่วม แนะนำว่าควรปิดระบบเครื่องปรับอากาศในรถ หรือปิดแอร์นั่นเอง แล้วเปิดกระจกเพื่อระบายอากาศ ให้อากาศภายในรถถ่ายเทมากขึ้น ซึ่งการไม่ปิดแอร์ขณะขับรถลุยน้ำ แล้วหากน้ำท่วมถึงตัวพัดลม แล้วพัดตีน้ำเข้ามาโดนบริเวณห้องไฟฟ้า อาจทำให้เกิดการช็อตและทำให้เครื่องยนต์ดับได้นั่นเอง

3. ใช้เกียร์ต่ำ ขณะขับลุยน้ำ

เมื่อต้อง ขับรถลุยน้ำ แนะนำว่าให้ใช้เกียร์ต่ำ คือเกียร์ 1 หรือ 2 และต้องรักษาอัตราเร่งไว้ให้ได้ประมาณ 1500-2000 รอบ หากต่ำกว่านี้เครื่องอาจจะดับได้ สูงกว่านี้อาจจะดูดอากาศและน้ำเข้าเครื่องได้อีก โดยหากเป็นรถยนต์เกียร์ออโต้ให้ใช้เกียร์ L แต่ถ้าเป็นรถยนต์เกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์ 1 หรือ 2

4. ควรรักษาระยะห่าง จากรถคันหน้า

แนะนำว่าควรรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าประมาณนึง เนื่องจากขณะขับรถลุยน้ำ ระบบเบรกของรถมีการแช่น้ำอยู่ทำให้ประสิทธิภาพต่ำลง ซึ่งหากขับพ้นน้ำแล้วก็ให้ขับช้า ๆ และเบรกเป็นช่วง ๆ เพื่อให้ผ้าเบรกแห้ง ถ้าดิสเบรคจะแห้งเร็ว แต่ถ้าดรัมเบรคจะแห้งช้ากว่า ต้องระวังจุดนี้ด้วย

5. พกสเปรย์ไล่ความชื้นติดรถไว้ 

อีกหนึ่งไอเทม ที่ควรพกติดรถไว้ก่อนออกเดินทาง เพราะการพกสเปรย์ไล่ความชื้นช่วยได้จริง ๆ นะ เพราะถ้าเกิดกรณีรถลุยน้ำแล้วสตาร์ทไม่ติด ให้ฉีดสเปรย์ตามระบบจุดระเบิด แผงไฟ ขั้วแบตเตอรี่ เพื่อไล่ความชื้นออกได้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ต้องมี

6. ถึงที่หมายแล้ว อย่าเพิ่งดับเครื่องทันที 

หลายคนโล่งใจ ถึงที่หมายแล้ว รอดแล้ว จอดปุ๊บ ดับเครื่องปั๊บ อ่ะ ๆ จำใหม่นะ เมื่อขับรถลุยน้ำท่วม และถึงที่หมายแล้ว อย่าเพิ่งรีบดับเครื่องโดยทันที แนะนำว่าให้ติดเครื่องยนต์ไว้สักพักก่อนเพื่อเป็นการไล่น้ำและความชื้นที่ค้างอยู่ตามเครื่องยนต์ออกเสียก่อน ก็สามารถช่วยให้เครื่องยนต์ไม่พังได้นั่นเอง

📌 ฝากเคล็ดลับอีกนิด วิธีดูแลรถหลังลุยน้ำท่วม

สำหรับผู้ขับขี่รถทั้งหลาย หากพอจะรู้แล้วว่ามีความเสี่ยงที่จะต้อง ขับรถลุยน้ำท่วม อย่างเลี่ยงไม่ได้ หากรู้ก่อนแนะนำว่าให้รีบถอดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์ออกขั้วใดขั้วหนึ่ง หรือทั้งสองขั้ว ให้ระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน จะช่วยทำให้เครื่องยนต์แย่น้อยลงได้ และถ้ารถถูกน้ำท่วมทั้งคัน แนะนำว่าให้เปลี่ยนของเหลวในรถยนต์ใหม่ทั้งหมด เช่น น้ำมันเครื่อง, น้ำบันเบรค, น้ำมันเกียร์ นั่นเอง หรือหากร้ายแรงรถพังขึ้นมาจริง ๆ จากน้ำท่วม แล้วมีประกันรถยนต์อยู่ก็สามารถเคลมได้นะ ส่วนนี้ต้องลองสอบถามจากเงื่อนไขประกันแต่ละบริษัทดูอีกทีน้า ได้เคล็ดลับดี ๆ ไปแบบนี้ ลองเอาไปทำตามเถอะ รถจะได้ไม่พัง ไม่ต้องเสียตัง แล้วมานั่งเสียใจ เตือนแล้วน้าา

ขอบคุณข้อมูล ขับขี่ปลอดภัย by DLT

📌 อ่านต่อบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ 

อัปเดต คาเฟ่ติดรถไฟฟ้า เอาใจชาวเมือง นั่งบีทีเอส สวย ๆ ไปรีวิว

สีร่มมงคลตามวันเกิด เสริมดวง โชคลาภ ไอเทมสุดปังหน้าฝน ที่สายมูต้องมี

คุณเป็นคน คลั่งรัก แค่ไหน เช็กได้จากวันเกิด