เครียด คือภาวะทางร่างกายและจิตใจที่แสดงอาการต่าง ๆ ตอบสนองต่อสถานการณ์ ความเปลี่ยนแปลง ความต้องการ หรือความคับข้องใจที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน จนทำให้เกิดความไม่สบายใจ และหากเกิดความเครียดมาก ๆ ก็อาจนำไปสู่การเกิดปัญหาสุขภาพได้ ดังนั้น ทุกคนควรมีวิธีจัดการและรับมือกับความเครียด เพื่อสุขภาพที่ดี
ใครเคยเจอกับปัญหาที่ไม่สามารถจัดการได้จนเกิดความเครียดหรือมีอาการเครียดจนใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบาก จะจัดการยังไงดี วันนี้อีเว้นท์พาสรวบรวมมาให้แล้ววิธีกำจัดความเครียดฉบับง่ายได้ด้วยตัวเอง
ความเครียดเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน ไม่ว่าจะจากภาระงานที่หนักมากเกินไปหรือจะเป็น การเรียนที่หนักจนเกินไป การต้องเผชิญกับภาวะกดดันต่าง ๆ เครียดเรื่องงานเรื่องส่วนตัว อื่น ๆ อีกมากมายหลากหลายสาเหตุเหล่านี้ ทำให้ร่างกายมีความเครียดเกิดขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หากปล่อยไว้นานวันเข้าอาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงได้
วิธีจัดการความเครียดด้วยตัวเอง
1.เริ่มต้นจากการสังเกตตัวเอง สังเกตว่ามีการตอบสนองต่อความเครียดอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นอาการโมโหง่าย โกรธง่าย นอนไม่หลับ มีปัญหาในการนอน หงุดหงิด ซึมเศร้า รู้สึกอ่อนเพลีย พลังงานต่ำ เหล่านี้เป็นอาการเบื้องต้นที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเรากำลังประสบกับภาวะเครียดอยู่ พอรู้สาเหตุแล้วต้องรีบจัดการกับความเครียดตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่เป็นปัญหาต่อสุขภาพในระยะยาว
2.วางแผนจัดการกับความเครียด
โดยค้นหาว่าตนเองเกิดความเครียดจากสาเหตุใด หากไม่พบ ให้จดบันทึกเกี่ยวกับความเครียดเป็นระยะเวลา 2 – 4 สัปดาห์ โดยจดวันที่, เวลา, สถานที่ที่เกิดความเครียด, สิ่งที่กำลังทำ, คนที่อยู่ด้วยกัน ณ ตอนนั้น, ความรู้สึกที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดขึ้นแล้วเราทำอะไรต่อ มีอาการทางร่างกายอย่างไร หลังจากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนในการทบทวนถึงสาเหตุของความเครียดที่เรากำลังเผชิญอยู่ เพื่อวางแผนรับมือจัดการกับความรู้สึกต่อไป
3.จัดลำดับความสำคัญของงาน
แยกสิ่งที่ต้องทำก่อนเป็นอันดับต้น ๆ และสิ่งที่สามารถทำทีหลังได้ออกจากกัน หลังจากนั้นให้วางแผนการทำงานเป็นขั้นเป็นตอน และดำเนินการตามแผนที่วางไว้ รวมถึงฝึกที่จะปฏิเสธงานที่เข้ามาแบบปัจจุบันทันด่วนออกไป เพื่อไม่ให้ปริมาณงานมากเกินกว่าที่จะรับผิดชอบได้ไหว ถ้าเราทำงานจนล้นตัวทำให้เราจะเกิดความเครียดซะเองว่าจะสามารถทำทันที่กำหนดมั๊ย และจะสามารถทำให้ทันตามที่ได้รับมอบหมายมั๊ย
4.ระบายมันออกมาบ้าง
ด้วยการขอกำลังใจและการสนับสนุนจากคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก การได้ระบายความรู้สึกของตัวเอง แทนที่จะเก็บไว้คนเดียว จะทำให้ภาวะตึงเครียดผ่อนคลายลง และรู้สึกดีขึ้น
5.หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด

ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง ออกไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจบ้าง นัดเจอเพื่อนบ้างอย่ายู่คนเดียวมากเกินไปบางทีก็โทรหาเพื่อนเพื่อระบายความเครียดในแต่ละวันที่เราเจอบ้าง เชื่อว่าเวลาเราได้พูดคุยกับใครจะทำให้ความเครียดบางเบาลง
6.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ
การมีสุขภาพกายที่ดีย่อมส่งผลดีต่ออวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย ให้สามารถทำงานได้เป็นปกติ มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง โดยเฉพาะในกลุ่มวิตามินรวม ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและคืนความกระชุ่มกระชวย ความมีชีวิตชีวา และความสดใสให้กับร่างกายได้
7.หาวิธีรักษา
หากไม่สามารถจัดการความเครียดได้ด้วยตนเอง หรือตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพูดคุยบอกเล่าปัญหา ความทุกข์ใจต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเครียด
8.ออกกำลังกาย คลายเครียด

อย่างน้อย ๆ ถ้าเรารู้สึกตัวว่ากำลังเครียดอยู่ การได้ออกจากโต๊ะทำงานไปยืดเส้นสาย หรือเดินขึ้นลงบันไดอาจทำให้เราหลุดโฟกัสเรื่องเครียดสักพักหนึ่งจริง ๆ มีเวลาหลังเลิกงานควรไปออกกำลังกายอย่างน้อย ๆ 30 นาทีก็จะช่วยให้ความเครียดคลายลงได้
9.นั่งสมาธิลดความเครียด
ลองหาเวลาทำสมาธิ หรือสวดมนต์ไหว้พระ ฝึกลมหายใจ ลองกำหนดลมหายใจเข้า - ออกง่าย ๆ ทำให้ชีพจรเต้นช้าลง เอาใจไปโฟกัสการกำหนดลมก็ทำให้เราลืมเรื่องเครียด ๆ ไปได้ประมานหนึ่งเลย
10. จัดสรรเวลาในชีวิตประจำวัน
จัดเวลาให้ดีขึ้น Work Life Balance นอกจากการจัดสรรเวลาการทำงาน และการใช้ชีวิตส่วนตัวให้ดีจะช่วยให้ชีวิตส่วนตัวดีขึ้นแล้ว ยังช่วยในเรี่องของการที่เราไม่เอาความเครียดต่าง ๆ ไปให้กับครอบครัวด้วย ทำงานเสร็จควรพักเรื่องงานไม่นำงานกลับไปทำที่บ้าน ให้เวลากับครอบครัว
11.ผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง
แม้ว่าเราจะจัดการปัญหาความเครียดต่าง ๆ ยังไม่ได้ทันที แต่การที่เราเอาตัวเองออกมาจากความเครียดได้สักพักหนึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีได้ทำตามใจตัวเองบ้าง เช่น การนอนดูหนัง ฟังเพลง หรือออกไปหากิจกรรมทำที่นอกจากการนั่งจมกับความคิดเครียด ๆ หรือออกไปหาเพื่อนเพื่อให้คลายเครียด
12.ปรับเปลี่ยนความคิด
การจมอยู่กับความคิดใดความคิดหนึ่งมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเครียดโดยไม่รู้ตัวได้ หรือถ้าหากเราจมอยู่กับความวิตกกังวลมาก ๆ ก็กลายเป็นความเครียดสะสม ในทางวิทยาศาสตร์พบว่าความคิดสัมพันธ์กับสมอง เมื่อคิดอย่างหนึ่งสมองก็จะตอบสนองไปตามนั้น หากเราตกอยู่ในภาวะเครียดเรื่องงาน สุขภาพ หรือเพื่อนร่วมงาน วิธีการคือให้เอาตัวเองออกจากความเครียดนี้ด้วยการลองปรับมุมมองปัญหาต่าง ๆ ลองเอาตัวเองออกมาข้างนอกหากิจกรรมทำให้ไม่เครียดและลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
สำหรับใครที่กำลังเครียดอยู่และไม่รู้จะทำยังไง ลองทำตามดูน้า ความเครียดเป็นเสมือนส่วนหนึ่งของชีวิต แม้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดเหมือนอาการป่วย แต่ถ้าเรารู้ตัวเองแล้วรีบจัดการกับความเครียดก่อนทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขในการใช้ชีวิต
ดูบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมที่...
👉น้ำอุ่น หรือ น้ำเย็น อาบน้ำแบบไหนดีต่อสุขภาพ มากกว่า! มีคำตอบ

👉เช็กด่วน! คุณเป็นโรคกลัวสังคมหรือไม่ รีบเช็คตัวเองก่อนสายไป