🍕🍰 Binge Eating Disorder (BED) หรือ โรคกินไม่หยุด เป็นโรคที่ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมในการกินของตัวเอง ทำให้ต้องกินเยอะมากกว่าปกติ ต้องกินถึงแม้ว่าจะไม่ได้หิว กินจนกว่าร่างกายจะรับไม่ไหวถึงจะหยุดได้ 😥 เป็นโรคที่เกินขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่มักจะพบในเพศหญิงช่วงอายุ 20 ปี ขึ้นไป
📌ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค
◼ ปัจจัยที่เกิดจากโรคอื่น 👉สามารถพบโรคกินไม่หยุดได้ในผู้ป่วยจากโรคอื่น ๆ เช่น โรคอ้วน โรคเครียด โรคซึมเศร้า เป็นต้น
◼ ปัจจัยที่เกิดจากจิตใจ 👉 ได้เจอกับเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อจิตใจ กระทบความรู้สึก เช่น ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเพราะเคยถูกว่า การลดน้ำหนักที่ทำไม่สำเร็จ เคยถูกทำร้าย เป็นต้น
นอกจากนี้อาจจะมีภาวะอื่น ๆ แทรกซ้อนก็เป็นได้ เช่น หยุดหายใจขณะหลับ เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น
🩺อาการของโรคกินไม่หยุด
◼ รู้สึกซึมเศร้า หรือวิตกกังวลตลอดเวลา
◼ กินอาหารมากจนรู้สึกทรมาณ ไม่สบายตัว
◼ มีอาหารหรือขนมวางไว้ข้างตัวตลอดเวลา
◼ เมื่อกินมาก ๆ จะรู้สึกผิดกับตัวเอง
◼ ไม่กล้ากินอาการร่วมกับผู้อื่น เพราะอายในปริมาณที่ตัวเองกิน
◼ ความมั่นใจในตัวเองลดต่ำลง
โดยผู้ป่วยที่เข้าข่ายอาการโรคกินไม่หยุด 📌จะต้องมีอาการตามที่เขียนไว้ข้างต้น อย่างน้อย 1 ครั้ง/สัปดาห์ และต้องติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน
ใช่ว่าโรคนี้จะไม่มีทางรักษา แต่ผู้ป่วยอาจจะไม่รู้ตัวว่าเข้าข่ายเป็นโรคนี้ จึงไม่ได้เข้ารับการรักษา โดยส่วนใหญ่ในการรักษา แพทย์จะใช้วิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การให้ยาเพื่อให้สารในสมองสมดุลกัน และวิธีจิตบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สาเหตุและอาการของโรค เพื่อจัดการกับความคิดของตนเองไม่ให้เป็นไปในทางที่ไม่ดี
ทั้งนี้ยังมีวิธีป้องกันที่สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกินไม่หยุดได้ นั่นก็คือ พักผ่อนให้เพียงพอ รู้จักผ่อนคลายจากความเครียด ออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ และเมื่อรู้สึกถึงสัญญาณของโรค ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที
Source evpss.co/da4188 , evpss.co/395801 , evpss.co/649660