ในปัจจุบันมีน้ำมันประเภทต่าง ๆ ให้เราเลือกซื้อมากมายหลายชนิด ทั้งน้ำมันมะพร้าว น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก หรือแม้กระทั่งน้ำมันหมู ที่ตอนนี้ก็เริ่มหันมาใช้ในการทำอาหารแล้ว น้ำมันแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างการออกไป ชนิดไหนบ้างที่ใช้ในการทำอาหารร้อนเช่น ผัด ทอด ชนิดใดบ้างที่ใช้ปรุงอาหารเย็น ควรเลือกใช้ประเภทน้ำมันพืชให้เหมาะสมอย่างไร ก่อนที่เพื่อน ๆ จะเลือกซื้อน้ำมันในซุปเปอร์มาเก็ตก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับน้ำมันแต่ละชนิดกันก่อนค่ะ ว่าแต่ละชนิดนั้นมีประโยชน์และข้อควรระวังอย่างไรบ้าง
น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)
น้ำมันพืชยอดนิยม เป็นอีกของดีขึ้นชื่อที่คนรักสุขภาพต้องมีติดครัว น้ำมันมะพร้าวจะประกอบด้วยไขมันที่อิ่มตัวสูง และสามารถเพิ่มไขมันดีหรือ HDL ได้ ส่วนใหญ่น้ำมันมะพร้าวในตลาดจะผลิตด้วยกรรมวิธีสกัดเย็น ด้วยวิธีการเหวี่ยงที่ความเร็วสูง เพื่อน ๆ จะเห็นว่าน้ำมันมะพร้าวจะไขได้ในอุณหภูมิปกติ นอกจากน้ำมันมะพร้าวจะใช้ปรุงอาหารได้ ปัจจุบันยังนิยมนำมาเป็นตัวช่วยหมักผม บำรุงผิวหน้า และเป็นส่วนผสมสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมความงามได้อีกด้วย
น้ำมันมะพร้าว เหมาะสำหรับ : ผัด ทอด หรือทำขนม
น้ำมันปาล์ม (Palm Oil)
น้ำมันปาลม์ เป็นน้ำมันคู่บ้านคู่ครัวของใครหลายคนนิยมใช้กันมาอย่างยาวนาน การใช้น้ำมันปาล์มทอดอาหารจะอร่อยกว่าน้ำมันทั่วไป เพราะช่วยคงรสชาติเดิมเอาไว้ไม่เปลี่ยน ผลิตมาจากผลของปาล์มที่อุดมไปด้วยวิตามินอ E และวิตามิน A ใช้ประกอบอาหารประเภทผัด และทอด เป็นน้ำมันที่ทนความร้อนสูง น้ำมันปาล์มมีราคาที่ไม่แพงทำให้คนปรุงอาหารนิยมใช้กันในวงกว้าง แต่ข้อเสียที่ควรระวังคือน้ำมันปาล์มมีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวค่อนข้างสูง หากรับประทานในปริมาณมากจะทำให้ร่างกายมีคลอเลสเตอรอลสูงได้
น้ำมันปาล์ม เหมาะสำหรับ : ทอด เพราะทำให้อาหารกรอบนาน อร่อย และมีสีสันส่วน คงรสชาติอาหารได้ดีกว่าน้ำมันประเภทอื่น ๆ
น้ำมันข้าวโพด (Corn Oil)
น้ำมันข้าวโพด เป็นน้ำมันพืชชนิดหนึ่งสามารถใช้ปรุงอาหารที่ทนความร้อนได้ แต่น้ำมันข้าวโพดนั้นมีความแตกต่างจากน้ำมันปาล์ม คือเมื่อโดนความร้อนจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากข้าวโพด มีกรดไขมันสำคัญดีต่อสุขภาพ ได้แก่ กรดโอเลอิก และกรดไลโนเลอิก มีแคลอรี่ต่ำ แนะนำให้รับประทานแต่พอเหมาะ ปัจจุบันมีให้เลือกซื้อหลากหลายสามารถเลือกได้ตามความต้องกา
น้ำมันข้าวโพด เหมาะสำหรับ : ใช้ทอดอาหาร นิยมใช้ทอดเฟรนช์ฟรายส์
น้ำมันดอกทานตะวัน (Sunflower Oil)
น้ำมันทานตะวันจัดอยู่ในจำพวกเดียวกับน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวันเป็นน้ำมันที่ไม่ทนกับอุณหภูมิสูง ๆ แนะนำให้ใช้ผัดในความร้อนปานกลาง หรือใช้เป็นส่วนผสมตีซอสสลัด ในน้ำมันมีกรดไลโนเลอิกสูง มีสรรพคุณลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ในเส้นเลือดได้
น้ำมันดอกทานตะวัน เหมาะสำหรับ : ผัดไฟอ่อน ทำน้ำมันสลัด ฯลฯ
น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil)
น้ำมันรำข้าวเป็นน้ำมันที่มีราคาไม่แพงจับต้องได้ แต่มีประโยชน์ใกล้เคียงกับน้ำมันมะกอก อุดมไปด้วยสารที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในสตรีวัยทอง และมีสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถทอดได้แต่ไม่ควรทอดนานเกินหรือใช้ความร้อนสูง เพราะจะทำให้เป็นผลเสียมากกว่าผลดี น้ำมันรำข้าว เหมาะสำหรับ : ปรุงอาหารผัดทอดทั่วไป ในระยะเวลาไม่นาน
น้ำมันถั่วเหลือง (Soybean Oil)
น้ำมันพืชปรุงอาหารยอดฮิตที่คนทำอาหารชื่นชอบ "น้ำมันถั่วเหลือง” ผลิตจากเมล็ดถั่วเหลืองที่ใช้อุณหภูมิสูงกว่า 60 - 88 องศาเซลเซียลอุ่นสกัดน้ำมันให้แตก หลังจากนั้นบ่มกับความชื้นทำให้ได้น้ำมันบริสุทธิ์ใช้ปรุงอาหารได้ ประโยชน์น้ำมันถั่วเหลืองดีต่อสุขภาพอุดมด้วยกรดไลโนเลอิกวิตามินอี และวิตามินเคที่ดีต่อสุขภาพเส้นผม กระดูก บำรุงผิวหนัง และลดความเสี่ยงความดันโลหิตสูง หากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ
น้ำมันถั่วเหลือง เหมาะสำหรับ : ผัดอาหาร ใช้ปรุงทำขนม หรืออาหาร สามารถใช้ทำสลัดได้ ไม่ควรใช้น้ำมันถั่วเหลืองทอดเวลานาน
น้ำมันคาโนลา (Canola Oil)
น้ำมันคาโนลาเป็นน้ำมันที่มีสีใส นิยมนำเข้าจากต่างประเทศจึงทำให้มีราคาค่อนข้างสูง มีไขมันอิ่มตัวน้อยเมื่อเทียบกับน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ มีสรรพคุณของโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 มีกรดโอเลอิกสูง ซึ่งมีส่วนช่วยลดอัตราการเกิดเส้นเลือดหัวใจอุดตัน หากบริโภคแต่พอเหมาะจะเป็นน้ำมันที่ช่วยชะลอไม่ให้แก่ก่อนวัยอันควร และป้องกันความดันโลหิค โรคไต และมะเร็ง
น้ำมันคาโนลา เหมาะสำหรับ : ทอด ผัด ทำน้ำสลัดได้ทั้งหมดตามสะดวก
น้ำมันหมู (Pork Lard)
ผู้บริโภคบางกลุ่มหันมาใช้น้ำมันหมูในการปรุงอาหารโดยเฉพาะกลุ่มคีโต ซึ่งน้ำมันหมูจะที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น โอเมก้า3,6,9 วิตามิน กรดโอเลอิค โปรตีน อีกทั้งน้ำมันหมู มีไขมันที่ได้จากธรรมชาติ เป็นกรดไขมันอิ่มตัว ที่ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี ช่วยทำให้เลือดไม่เหนียวข้น จึงเหมาะใช้ปรุงอาหารเมนูต่างๆ อีกทั้งช่วยทำให้อาหารมีความหอมอร่อยมากยิ่งขึ้น ไม่ควรเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิสูงและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดด
น้ำมันหมู เหมาะสำหรับ : ทอดอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูง และปรุงอาหารทั่วไป