👩⚕️ ไปตรวจสุขภาพฟันทีไร คุณหมอจะต้องจบการรักษาด้วยคำว่า “คราวหน้ามาขูดหินปูนด้วยนะ” แต่เคยได้ยินจากคนรอบตัวว่าการขูดหินปูนนั้นเจ็บสุด ๆ เลยทำให้ไม่กล้าไปหาหมอสักที ดิฉันขอไม่ทำได้ไหมคะคุณหมอ คงไม่เป็นอะไรหรอกเนอะ 😬
อยากจะบอกว่าไม่ได้นะคะ เพราะการขูดหินปูนเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อสุขภาพช่องปากมาก❗ ไม่สามารถปล่อยปะละเลยได้นะคะ
📌 หินปูน เกิดจากการที่เศษอาหาร โปรตีนและเชื้อแบคทีเรียที่สะสมรวมกันในช่องปากจนกลายเป็นแผ่นจุลินทรีย์ ซึ่งไอ้เจ้าแผ่นจุลินทรีย์นี้เมื่อทับถมกันไปเรื่อย ๆ ก็จะกลายเป็นคราบหินปูนเกาะอยู่ตามบริเวณซี่ฟัน ส่งผลต่อสุขภาพเหงือกและเสียความมั่นใจ
ทำไมเราถึงต้องขูดหินปูน? ถ้าไม่ขูดจะเป็นอะไรหรือเปล่า🤔
บอกเลยค่ะว่าเป็นแน่นอน เพราะการที่เราปล่อยหินปูนเอาไว้เฉย ๆ จะทำให้เกิดปัญหากับช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นเหงือกอักเสบ เหงือกอ่อนแอ ฟันผุ รากฟันอักเสบ รวมไปถึงโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งในช่องปากอีกด้วย นอกจากนี้การปล่อยให้เกิดการอักเสบภายในช่องปากจะเป็นตัวกระตุ้นในเกิดโรคหัวใจอีกด้วย
แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับคนบางกลุ่มเหมือนกันที่ห้ามขูดหินปูนเพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนได้ด้วย เช่น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ผู้ที่ป่วยเป็นโรคปริทันต์ ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ หอบหืด หรือโรคที่สามารถถูกกระตุ้นให้เกิดอาการได้ง่าย เป็นต้น โดยก่อนที่จะเข้ารับการขูดหินปูนควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนทุกครั้ง
แต่หากใครที่กลัวการขูดหินปูน ก็สามารถป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของคราบหินปูนได้ ทำให้ไม่ต้องเข้ารับการขูดหินปูนบ่อย โดยการปฏิบัติดังนี้ 👇
◼ ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ จะช่วยในการลดการเกิดหรือสะสมของแบคทีเรียได้
◼ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือหลังทานอาหาร และใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย เพราะเศษอาหารที่ติดค้างก็เป็นส่วนที่ทำให้เกิดคราบหินปูน
◼ เลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้มีกลิ่นปากและฟันเหลือง
◼ การดื่มน้ำสะอาดก็มีส่วนช่วยในการยับยั้งการเติบโตของแบคทีทเรียได้เช่นกัน
◼ ข้อที่สำคัญที่สุด คือการพบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก เพราะนอกจากจะพบการสะสมของหินปูนแล้ว อาจพบปัญหาสุขภาพปากอื่น ๆ อีกด้วย