น้ำอุ่น-หรือ-น้ำเย็น-อาบน้ำแบบไหนดีต่อสุขภาพ-มากกว่า!-มีคำตอบ

หน้าแรก /

ไลฟ์สไตล์ /

น้ำอุ่น หรือ น้ำเย็น อาบน้ำแบบไหนดีต่อสุขภาพ มากกว่า! มีคำตอบ

อากาศเมืองไทยทุกคนรู้ ๆ กันอยู่ว่าร้อนมิไหววว🥵🥵 การอาบน้ำสำหรับคนไทยจึงถือว่าเป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง บางคนก็ชอบน้ำเย็นเพราะอาบแล้วสดชื่นสบายตัว แต่บางคนก็ชอบน้ำอุ่นเพราะรู้สึกสบายและผ่อนคลายฟินสุด ๆ แต่ก็ยังสงสัยและเถียงกันตลอดว่า ระหว่างน้ำอุ่นกับน้ำเย็น การอาบน้ำแบบไหนดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน ไหนทีมอาบน้ำเย็นบ้างง 🙋🏻♀️🙋🏻♀️ แล้วใครทีมอาบน้ำอุ่นบ้างง 🙋🏻🙋🏻 แบบไหนมันดีต่อสุขภาพกว่ากันหล่ะ วันนี้อีเว้นท์พาสหาคำตอบมาให้แล้วไปอ่านคำตอบกันเลย✨😍

ข้อดีของการอาบน้ำอุ่นและน้ำเย็น

✨การอาบน้ำอุ่น✨

ถึงอากาศร้อนแค่ไหน แต่หลายคนก็ชอบอาบน้ำอุ่น เพราะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อาบน้ำได้นานกว่า ทำความสะอาดร่างกายได้นานขึ้น นี่แหละที่คุณผู้ชายชอบว่าสาว ๆ ทำไมอาบน้ำช้าและ “การอาบน้ำอุ่นเป็นการเปิดรูขุมขนได้กว้างกว่าการอาบด้วยน้ำเย็น” ทำให้สามารถชำระล้างสิ่งสกปรกได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ถ้าหากชอบอาบน้ำอุ่น น้ำที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสขึ้นไปจะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น เหมาะกับใช้แก้อาการอ่อนเพลียแต่ไม่ควรจะอาบนานเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้ง ผิวเหี่ยว หรืออาจทำให้ประสาทอ่อนล้า ง่วงซึม ส่วนน้ำอุ่นอุณหภูมิระหว่าง 27-37 องศาเซลเซียสจะช่วยกระตุ้นระบบประสาททำให้ร่างกายสบาย ลดเครียดสะสมระหว่างวัน เป็นการอาบน้ำที่ผ่อนคลายสุด ๆ ไปเลย 💗✨😍

✨ข้อดีของการอาบน้ำอุ่น✨

1.ใครมีความเครียดสะสมระหว่างวันถูกใจสิ่งนี้ เพราะการอาบน้ำอุ่นจะช่วยลดความเครียดสะสมระหว่างวันได้ดี

2.รู้สึกสบาย เพราะการอาบน้ำอุ่นจะช่วยให้เราผ่อนคลายกล้ามเนื้อภายหลังจากที่อาบน้ำ

3.สาว ๆ สายปวดท้องประจำเดือนต้องลอง! การอาบน้ำอุ่นสำหรับผู้หญิงในช่วงก่อนหรือมีประจำเดือน ช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ลดอาการเกร็งช่องท้อง และลดอาการปวดท้องได้

4.ลดอาการบวมของร่างกายในส่วนต่าง ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน

เห็นข้อดีของการอาบน้ำอุ่นขนาดนี้แล้ว การอาบน้ำอุ่นจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่า แต่การอาบน้ำอุ่นทุกวัน จะทำให้ผิวเสียความชุ่มชื่น ผิวแห้งกร้าน จึงไม่แนะนำให้อาบน้ำอุ่นหลังจากเล่นกีฬาเสร็จ เพราะน้ำอุ่นทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น จนรู้สึกอ่อนเพลียมากกว่าเดิม อาบน้ำอุ่นมาก ๆ ทุกวันอาจจะผิวเหี่ยวไม่รู้ตัวด้วยน้าา

✨การอาบน้ำเย็น✨

มาต่อกันที่การอาบน้ำเย็นบ้าง อุณหภูมิปกติของน้ำหรือน้ำที่ค่อนข้างเย็น จะช่วยคืนความสดชื่นหลังจากอาบน้ำได้ดีกว่าการอาบน้ำอุ่น เวลาเหนื่อยล้า กลับมาอาบน้ำเย็นแล้วสดชื่นจังแฮะ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยชินแล้ว อาจทำให้การอาบน้ำเย็นเป็นเรื่องยากและใช้เวลาอาบน้ำที่รวดเร็วขึ้น จึงอาจทำความสะอาดร่างกายได้ไม่ทั่วถึง ก็มันหนาวนี่หน่า~~ แต่ถ้าหากชอบอาบน้ำเย็น ควรปรับอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 27 องศาเซลเซียส ระดับความเย็นนี้จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อให้กระปรี้กระเปร่า รูขุมขนกระชับโดยเฉพาะระหว่างอาบน้ำถ้าใช้มือตบเบา ๆ ไปทั่วร่างกาย จะช่วยกระตุ้นผิวและตื่นระบบประสาทให้ตื่นตัวได้

✨ข้อดีของการอาบน้ำเย็น✨

1.ในตอนเช้าใครรู้สึกตื่นนอนแล้วแต่ยังไม่สดชื่นให้ลองอาบน้ำเย็น เพราะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ตาสว่างแน่นอน!

2.ช่วยให้อารมณ์ดี ร่างกายตื่นตัวได้เร็วหลังจากตื่นนอน

3.ช่วยเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย

4.เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

5.การอาบน้ำเย็นจะทำให้ทำให้ผิวพรรณดูเนียนเรียบ และอิ่มน้ำตลอดเวลา สาวต้อง ๆ ถูกใจสิ่งนี้แน่นอน!

ถึงการอาบน้ำเย็นจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวและอารมณ์ แต่การอาบน้ำเย็นในสภาพที่ร่างกายอ่อนแอหรือตอนอยู่ในสภาพอากาศหนาวจัด อาจจะทำให้ไม่สบาย หรือช็อคจนหมดสติได้ เอาเป็นว่าปรับใช้ให้ถูกกับสถานการณ์และโอกาสดีกว่าน้าาา จะได้ไม่เสี่ยงเป็นหวัดด้วย

แล้วสองอย่างนี้อาบยังไงให้สุขภาพดีกันหล่ะ? จะเห็นได้ชัดว่าทั้งน้ำอุ่นและน้ำเย็นมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปซึ่งหากคุณต้องการอาบน้ำให้ดีต่อสุขภาพ สามารถปรับใช้ให้เหมาะกับสภาพร่างกายในขณะนั้น หรือความเหมาะสมของช่วงเวลาในการอาบน้ำทั้งสองแบบ คือ

1.ในตอนเช้าเลือกอาบน้ำเย็นเพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว พร้อมเริ่มวันใหม่ ๆ

2.ตอนเย็นเลือกอาบน้ำอุ่น เพื่อคลายความเครียดสะสม ช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น

ที่มา : www.fwd.co.th/th

ดูบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมที่...

👉ข้อดีของการ โนบรา ประโยชน์มากกว่าที่คิด สาว ๆ รู้เเล้วอยากลองไหม