แอดเชื่อว่ามีหลายคนเลยที่อยากจะลองสัก แต่รู้หรือเปล่าคะว่านอกจากการเลือกร้าน เลือกลายที่จะสักกแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่เราต้องรู้เลยก็คือ การดูแลแผลสัก นั่นเองค่ะ❗
บางคนอาจคิดว่าสักเสร็จแล้วก็จะได้เป็นลายเส้นที่สวยงาม แต่ความจริงแล้วก่อนที่จะเป็นแบบนั้นเราต้องผ่านการเป็นแผลเสียก่อน รีบเลื่อนลงไปทำความเข้าใจกันเลย 👇
✨ ช่วง 2 - 3 วันแรก
จะยังมีคราบเลือด น้ำเหลืองหรือพลาสมา ซึมออกมาบริเวณรอยสัก และแผลรอยสักอาจมีสีคล้ำเข้มขึ้น แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปนะคะ เพราะนี่คืออาการปกติของแผลสัก ให้เช็ดทำความสะอาดอย่างเบามือด้วยน้ำอุ่น ซับให้แห้ง และทาขี้ผึ้ง ควรทำความสะอาดแผลวันละ 1-2 ครั้ง/วัน
✨ ช่วง 3 - 6 วัน
แผลสักจะเริ่มตกสะเก็ดบาง ๆ รอบรอยสัก รอยแดงหรือรอยคล้ำจางลง ช่วงนี้เราจะรู้สึกยุบยิบ ๆ เห็นแล้วอยากเอามือไปแกะสะเก็ดแผล แต่บอกได้เลยว่าถ้าทำแล้วรอยสักยับเยินแน่ค่ะ ให้ทำความสะอาดแผลเหมือนเดิมและแนะนำให้ทาครีมหรือขี้ผึ้งบาง ๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
✨ ช่วง 6 - 14 วัน
ในช่วงนี้ถ้ายังมีอาการบวมแดงอยู่ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะเป็นอาการแผลติดเชื้อ! นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่เรารู้สึกมืออยู่ไม่สุข เพราะจะเริ่มรู้สึกคัน บริเวณรอยสักเนื่องจากสะเก็ดแผลเริ่มหลุดออกไป แต่ว่าต้องอดทนไว้ให้ได้นะคะ! ไม่งั้นรอยสักได้ลอกออกมาและมีของแถมเป็นรอยแผลเป็นอีกด้วย สามารถบรรเทาอาการคันด้วยการทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น
✨ ช่วง 14 - 30 วัน
ใกล้จะถึงความจริงแล้วค่ะ! ช่วงนี้สะเก็ดแผลสักจะหลุดออกไปหมดแล้ว จะเหลือก็แค่เพียงผิวแห้ง ๆ ทิ้งเอาไว้ ในช่วงนี้การดูแลค่อนข้างง่ายแล้ว เพียงแค่ทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังเท่านั้น แต่ก็ใช่ว่ารอยสักจะออกมาสวยปิ๊งเลยนะคะ เพราะต้องรอรอยสักเข้าที่เข้าทางก่อน
📌 ข้อควรระวังหลังการสัก
◼ ควรระวังการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ หรือน้ำหอม จนกว่าแผลสักจะหายดี
◼ หลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดดจนกว่าแผลสักจะหายดี ให้สวมเสื้อผ้าคลุมแทนแต่ก็ต้องไม่แน่นและเสียดสีกับแผลสัก
◼ ในการสักช่วงแรก ให้หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลสักโดนน้ำและเกิดการอับชื้น เช่น การออกกำลังกาย การว่ายน้ำ การอาบน้ำ เป็นต้น
◼ ห้ามแคะ แกะ เกา บริเวณรอยสักเด็ดขาด!
🔍 สังเกตอาการแผลสักอักเสบ-ติดเชื้อ
◼ เกิดการบวมแดงบริเวณรอบรอยสัก
◼ มีน้ำหนอง เลือด หรือพลาสมาไหลออกมาจากแผล
◼ เกิดเนื้อเยื่อแข็งนูน
◼ มีไข้ ตัวสั่น
นอกจากนี้อาจอาการป่วยอื่น ๆ เช่น อาการแพ้หมึกสักส่งผลให้เป็นผื่น คัน ผิวไหม้ หรือเกิดแผลคีลอยด์ หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาทันที❗