หน้าแรก /

ไลฟ์สไตล์ /

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนเเรง คืออะไร สามารถรักษาได้ไหม

มีใครกำลังเป็นอยู่มั้ย 🙋🏻♀️ อยู่ดี ๆ ตาเราก็เปลี่ยนไป รูปตาไม่เหมือนเดิม! มีชั้นตาเพิ่มขึ้นบ้าง ตาดูง่วงนอนตลอดเวลาบ้าง ตาไม่เท่ากันบ้าง ตาชั้นเป็นอะไรไปเนี่ยย อาการเหล่านี้มันเกิดจากอะไรกันเเน่นะ ลองมาหาสาเหตุกันว่าเกิดจากอะไร มีวิธีการรักษามั๊ยเเละสามารถหายได้มั๊ยมาดูกัน!

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คืออะไร

คือ ภาวะกล้ามเนื้อตาทำงานไม่เต็มที่ เกิดจากการยืดของกล้ามเนื้อตา ทำให้กล้ามเนื้อตาไม่แข็งแรง ไม่สามารถพยุงหนังตาชั้นตาของเราได้ ดวงตาของเราไม่ได้มีเพียงลูกตาและเปลือกตาเท่านั้น การลืมตากระพริบตาแต่ละครั้งต้องมีการประสานงานกัน 3 ส่วน ระหว่าง "เปลือกตา" "เส้นประสาท" และ “กล้ามเนื้อตา” อาการตาปรือที่เกิดขึ้น ก็เกิดจาก "กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง" ทำงานไม่เต็มที่นั่นเอง ลักษณะก็คือเหมือนมีอาการตาปรือ ตาง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา

อาการของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

1.มีอาการตาปรือ ตาตก

ทำให้เสียบุคลิกภาพ ถ้าถามว่าอาการตาปรือนี้ถ้าทิ้งไว้ อาการจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้มีผลกับการมองเห็น เช่น ตาเข ตาเหล่ ได้แต่ไม่ถึงกับทำให้สูญเสียการมองเห็น แต่มีผลกับความสวยงาม เนื่องจากอาการนี้พบมากในบุคคลทั่วไป ทำให้เข้าใจว่าคือดวงตาปกติ แต่ความจริงสามารถรักษาได้

2. เห็นตาดำน้อย

สัญลักษณ์สำคัญอันดับแรกของลักษณะของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คือ การที่เห็นตาดำน้อยกว่า 85% เพราะการเห็นตาดำที่น้อยไม่ครบทั้งวงกลมของตาดำนั้นเป็นลักษณะสำคัญของการที่กล้ามเนื้อตาไม่แข็งแรงจึงทำให้การลืมตาเป็นไปได้ยากกว่าปกติ

3.ตาลึกโบ๋

ตาลึกโบ๋ เบ้าตาดูลึก ก็เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของการที่ลืมตาได้ไม่ลึกสุด เนื่องจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงคือการที่กล้ามเนื้อภายในตาหดตัวได้ไม่เต็มกำลัง จึงทำให้การลืมตาได้ไม่ลึกเป็นมิติ ทำให้เหลือพื้นที่บริเวณเปลือกตาถึงโหนกคิ้วมากกว่าภาวะปกติ ช่องว่างตรงนี้เองที่จะทำให้ตาดูลึกโบ๋ และบางคนขาดไขมันบนเปลือกตาอีกด้วย ทำให้พื้นที่บนเปลือกตาที่ควรอิ่มเต็มจากไขมันก็ขาดหายไป ดูเป็นร่องบุ๋ม ลึกลงไป ตาจึงดูลึกโบ๋ การที่ตาลึกโบ๋ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าอายุจริงได้

4.ชั้นตาซ้อนหลายชั้น

ปัญหาชั้นตาซ้อนหลายชั้นเกิดจากการที่กล้ามเนื้อตาทำงานได้ไม่ดี จึงทำให้การหดยืดของกล้ามเนื้อเป็นไปในทิศทางที่ตื้น เมื่อกล้ามเนื้อหดยืดในลักษณะที่ตื้นแล้วจึงทำให้ผิวหนังของเปลือกตาบนมีลักษณะทับซ้อนติดกันหลายชั้นนั่นเอง

5.ตาชั้นเดียว ตาตี่ ตาหมวย ตาตุ่ยบวม

ลักษณะตาหมวยตาตี่ ตาชั้นเดียวที่ดูมีเอกลักษณ์ ซึ่งอาจดูมีเสน่ห์ไปอีกรูปแบบนึง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ลักษณะตาหมวยตาตี่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นลักษณะของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

6. คิ้วโก่ง คิ้วสูงไม่เท่ากัน ร่วมกับมีริ้วรอยบนหน้าผากชัดเจนในข้างที่คิ้วยกสูงกว่า

อีกหนึ่งข้อสำคัญลักษณะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ที่มีผลต่อบุคลิกภาพ เมื่อกล้ามเนื้อมีความอ่อนแรง คือ มีแรงไม่มากพอในการลืมตาขึ้น การลืมตาจะรู้สึกยากขึ้นในแต่ละวัน ทำให้ร่างกายต้องการแรงทดแทนแรงจากกล้ามเนื้อตา ดังนั้น กล้ามเนื้อที่จะถูกยืมใช้ยกเปลือกตาขึ้นที่ดีที่สุด คือ กล้ามเนื้อหน้าผาก กล้ามเนื้อรอบคิ้ว เพราะเป็นกล้ามเนื้อที่มีขนาดใหญ่ จึงมีแรงในการช่วยยกเปลือกตาได้มาก เมื่อยืมแรงกล้ามเนื้อหน้าผากช่วยการลืมตาขึ้น การหดเกร็งของหน้าผากจึงตามมา ทำให้คิ้วดูโก่งสูงขึ้นตามไปด้วย

7.ชั้นตาบาง ชั้นตาไม่ลึกชัด

ชั้นตาบาง ชั้นตาไม่ลึก เกิดได้จากการที่กล้ามเนื้อไม่มีแรงยกเปลือกตาขึ้นได้สุด จึงทำให้รอยพับชั้นตามีลักษณะที่บาง หรือไม่คมชัด

8.มีอาการปวดรอบดวงตา ปวดศีรษะคล้ายไมเกรน

หลาย ๆ คนมีอาการปวดร้าวที่เบ้าตา เมื่อมีการใช้สายตาเยอะ ลามไปถึงหน้าผากโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ บางคนเข้าใจผิดคิดว่าอาการเหล่านี้คือ อาการปวดไมเกรน แต่ความจริงแล้วมันคืออาการที่กล้ามเนื้อหน้าผากหดเกร็งจนรู้สึกเมื่อยล้าต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดอาการปวดร้าวเรื้อรังลามไปทั่วศีรษะ วิธีการรักษา

สาเหตุของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

1.กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเป็นแต่กำเนิด

2.เกิดการระคายเคืองต่อกล้ามเนื้อตาเป็นเวลานาน ๆ จนเกิดเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

3.การผ่าตัดตาสองชั้นที่ไม่ได้ระวังต่อกล้ามเนื้อตา สามารถทำให้เกิดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้4.กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จากสารสื่อประสาทที่หลังผิดปกติโรค

โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอันตรายไหม หากปล่อยไว้ไม่รักษา?

ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง อาจส่งผลเสียได้มากกว่าที่คิดคนที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จะทำให้หนังตาดูตก ตาปรือมากกว่าคนที่มีระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตาเป็นปกติ อาจทำให้แต่งหน้าลำบาก ต้องใช้เวลานานในการแต่งรอบดวงตา เพื่อกลบจุดบกพร่อง อาจทำให้สูญเสียความมั่นใจในการเข้าสังคม เสียบุคลิกภาพ และอาจเป็นอุปสรรคในการทำงานบางอาชีพได้เลยทีเดียว

หากเป็นภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเพียงข้างเดียว หรือภาวะกล้ามเนื้อตาออกแรงได้ไม่เท่ากัน จะส่งผลให้ตาดูไม่เท่ากันตามไปด้วย จะเห็นว่าดวงตาข้างหนึ่งดูปรืออย่างชัดเจน ทำให้ใบหน้าโดยรวมขาดสมดุล ดวงตาดูไม่สวยงาม ส่งผลต่อโหงวเฮ้งของใบหน้า รวมไปถึงทำให้เจ้าของดวงตาสูญเสียความมั่นใจ

การรักษา สามารถทำได้ 2 วิธี

1.ใช้ยาตามอาการ เช่น ตาแห้ง ก็ใช้น้ำตาเทียม โรคกล้ามเนื้อตาบางชนิดสามารถกินยาลดอาการได้

2.รักษาด้วยการผ่าตัด เป็นการผ่าตัดเพื่อสร้างแรงกล้ามเนื้อที่เปลือกตา และทำให้ลืมตาได้มากขึ้น โดยทั่วไปแล้วหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์จะต้องตัดไหม และรอประมาณ 2 สัปดาห์ถึงจะดีขึ้นประมาณ 70-80% และชั้นตาจะดีขึ้นตามธรรมชาติใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน

เช็คดูตอนนี้ใครกำลังจะเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนเเรงบ้าง รีบเช็คตัวเองเเล้วไปปรึกษาคุณหมอน้า ว่าอาการของเรายังสามารถรักษาได้อยู่มั๊ย และต้องรักษาอย่างไรจะได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น

ที่มา : https://doctorpclinic.com/8-

https://www.jaremclinic.com/ptosiscorrection?gclid=Cj0KCQjwxveXBhDDARIsAI0Q0x1boh2A8YDowsxrq-uvm8-EwyemyAZ715xnPXl8BFSS2ceH_OWV8N4aApTkEALw_wcB

ดูบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมที่...