เพื่อน ๆ เคยเป็นกันมั้ยเวลาจะพรีเซนต์งาน สัมภาษณ์งาน หรือการต้องทำอะไรสักอย่างที่สำคัญ เราจะรู้สึกเครียด ตื่นเต้น ประหม่าไปหมดเลยยย สักพักเอ๊ะ... ทำไมรู้สึกตัวเหม็นตุ ๆ รู้สึกมีกลิ่นตัวแรง ก็ว่าฉีดน้ำหอมมาแล้วนะ แทบจะอาบเลยก็ว่าได้ ทำไมกลิ่นตัวเจ้ากรรมถึงยังส่งกลิ่นอีกนะ ทำให้ไม่มั่นใจเข้าไปใหญ่ แล้วแบบนี้จะทำไงดีละ? ก่อนอื่นเลย ‘หยุด เครียด ก่อน ค่ะ!’ ว่าแต่ทำไมต้องหยุดเครียด แล้วความเครียดเกี่ยวอะไรกับกลิ่นตัว อะไรเป็นสาเหตุให้เรามีกลิ่นตัวได้บ้าง เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย
รู้มั้ยคะว่าจริง ๆ แล้วความเครียด หรือการที่ใจเต้นแรง นอกจากจะกระทบต่อจิตใจเราแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อร่างกายด้วย โดยร่างกายของเราจะมีต่อมเหงื่อสองชนิด คือ ต่อมเหงื่ออะโพไครน์ (apocrine) และต่อมเหงื่อเอคครีน (eccrine) เมื่อไหร่ที่เราเกิดรู้สึกเครียด หรือกังวลขึ้นมา เจ้าต่อมเหงื่ออะโพไครน์ที่อยู่บริเวณใต้วงแขนและขาหนีบ เหมือนโดนเปิดสวิตซ์ทำงานและขับเหงื่ออกมาทันที ซึ่งขอบอกเลยว่าเหงื่อที่ออกมาจากต่อมเหงื่ออะโพไครน์ มี 'กลิ่นฉุน' มากกว่าการขับเหงื่อที่เกิดการระบายความร้อนของร่างกาย แถมยังดึงดูดแบคทีเรียให้ออกมาเพิ่มขึ้นไปอีก รู้อย่างงี้แล้วเลิกเครียดเลยนะคะ จะได้หยุดการทำงานของเจ้าต่อมเหม็นฉุนนี้
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อกลิ่นตัวแรง ตามนี้เลย
1. ชุดชั้นในสะอาด
สาว ๆ หลายคนอาจจะมีนิสัยชอบชอบใส่บราตัวเดี๋ยว ซ้ำๆ 1 - 2 วัน เพราะรู้สึกว่าใส่แค่แป๊บเดียว คงไม่เป็นไรหรอก หรือรู้สึกไม่ค่อยมีเหงื่อเลย ใส่ซ้ำก็ไม่น่าเป็นไร หยุดพฤติกรรมนี้ด่วนค่ะซิส! เพราะบราถือเป็นแหล่งสะสมเชื้อราและแบคทีเรียอย่างดี จากเหงื่อที่หมักหมมตลอดทั้งวัน จากทั้งใต้วงแขน หน้าอก หรือแผ่นหลัง ซึ่งแน่นอนทำให้เรามีกลิ่นตัวนั่นเอง
2. กินอาหารรสจัด หรืออาหารที่มีกลิ่นฉุน
ใครคลั่งไคล้อาหารรสจัด หรืออาหารที่มีกลิ่นฉุน ๆ ขอแสดงความเสียใจด้วย ถ้าไม่อยากมีกลิ่นตัวควรเลี่ยงซะ เพราะส่งผลให้ร่างกายปล่อยก๊าซกำมะถันที่รุนแรงระบายออกทางรูขุมขน และทำให้มีกลิ่นตัวแรงเหมือนสิ่งที่กินไปนั้นเอง งดบ้างเพื่อกลิ่นตัวที่ดีนะจ๊ะ
3. ผลข้างเคียงของยา
ยาประเภทมอร์ฟีน หรือยาลดไข้ มีคุณสมบัติขับเหงื่ออกมาได้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากเมโยคลินิก กล่าวว่า ยาต้านฮิสตามีน ยาหดหลอดเลือด ยาคลายกล้ามเนื้อ และยาระงับประสาท ที่ทำให้ปากแห้ง ส่งผลให้มีกลิ่นปากอีกด้วย รักษาโรคอย่างเดียวได้มั้ย อย่าทำให้มีกลิ่นตัวเลย
4. แอลกอฮอล์
ผู้เชี่ยวชาญด้านแอลกอฮอล์ กล่าวว่า การจะขับแอลกอฮอล์จากร่างกาย ต้องผ่าน ‘ตับ’ ซึ่งเป็นจุดในการเผาผลาญแอลกอฮอล์ หลังจากนั้นแอลกอฮอล์จะถูกขับออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ การที่เราดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินความสามารถของตับรับได้ ส่งผลให้ต้องถูกขับออกผ่านทางลมหายใจและเหงื่อแทน
5. ความผิดปกติทางกรรมพันธุ์
การกลายพันธุ์ของยีนบางอย่าง อย่างภาวะไตรเมทิลามีน (Trimethylamine) เป็นสารเคมีซึ่งมีกลิ่นเหม็นเหมือนคาวปลา ถือเป็นภาวะที่เกี่ยวเนื่องมาจากการเผาผลาญที่ผิดปกติ ซึ่งมักจะขจัดออกมาจากเหงื่อ ปัสสาวะและสารคัดหลั่งของร่างกาย ทำให้เรามีกลิ่นตัว
6. เบาหวาน
โรคเบาหวาน แต่กลิ่นตัวไม่เบาเลยนะจ๊ะ การที่เราเป็นโรคเบาหวานแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ร่างกายจะเริ่มขับไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงาน ส่งผลให้ระดับคีโตน (Ketone) ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น หลังจากนั้น สิ่งที่สะสมเอาไว้นี้ก็จะเปลี่ยนเป็นกลิ่นตัว ใครรู้สึกว่ามีกลิ่นตัวหวาน ๆ ไม่ใช่เรื่องดีเลย เสี่ยงเป็บเบาหวาน และควรพบแพทย์ด่วนเลย